ลักษณะ ๔
บทกำหนดโทษเกี่ยวกับการผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย
มีไว้ในครอบครอง หรือนำผ่านซึ่งยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์
-------------------------
มาตรา ๑๔๕ ผู้ใดผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๙๐ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสิบห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งล้านห้าแสนบาท
ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทําดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่สองปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสองล้านบาท
(๑) การกระทําเพื่อการค้า
(๒) การก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
(๓) การจําหน่ายแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปี
(๔) การจําหน่ายในบริเวณสถานศึกษา สถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด หรือสถานที่ราชการ
(๕) การกระทําโดยใช้กําลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย
(๖) การกระทําโดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธ
ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองเป็นการกระทําดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ห้าปีถึงจําคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ห้าแสนบาทถึงห้าล้านบาท หรือประหารชีวิต
(๑) การกระทําโดยหัวหน้า ผู้มีหน้าที่สั่งการ หรือผู้มีหน้าที่จัดการในเครือข่ายอาชญากรรม
(๒) การทําให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป
มาตรา ๑๔๖ ผู้ใดผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒ หรือประเภท ๔ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๙๑ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท
ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเฉพาะยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒ เป็นการกระทําดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งล้านห้าแสนบาท
(๑) การกระทําเพื่อการค้า
(๒) การก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
(๓) การจําหน่ายแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปี
(๔) การจําหน่ายในบริเวณสถานศึกษา สถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด หรือสถานที่ราชการ
(๕) การกระทําโดยใช้กําลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย
(๖) การกระทําโดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธ
มาตรา ๑๔๗ ผู้ใดผลิต นําเข้า ส่งออก หรือจําหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๓ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๙๒ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินสามแสนบาท
มาตรา ๑๔๘ ผู้ใดผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๙๓ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินห้าแสนบาท
ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทําดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งล้านห้าแสนบาท
(๑) การกระทําเพื่อการค้า
(๒) การก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
(๓) การจําหน่ายแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปี
(๔) การจําหน่ายในบริเวณสถานศึกษา สถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด หรือสถานที่ราชการ
(๕) การกระทําโดยใช้กําลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย
(๖) การกระทําโดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธ
มาตรา ๑๔๙ ผู้ใดผลิต นําเข้า ส่งออก จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๙๔ ต้องระวางโทษตามที่กําหนดไว้ ดังต่อไปนี้
(๑) วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท
(๒) วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินเจ็ดแสนบาท
(๓) วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินห้าแสนบาท
ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเฉพาะวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑ หรือประเภท ๒ เป็นการกระทําดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งล้านห้าแสนบาท
(๑) การกระทําเพื่อการค้า
(๒) การก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
(๓) การจําหน่ายแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปี
(๔) การจําหน่ายในบริเวณสถานศึกษา สถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด หรือสถานที่ราชการ
(๕) การกระทําโดยใช้กําลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย
(๖) การกระทําโดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธ
ผู้ใดนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๙๔ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินห้าแสนบาท
มาตรา ๑๕๐ ผู้รับอนุญาตผู้ใดดําเนินการผลิตหรือจําหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๕ หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ ในระหว่างที่เภสัชกรมิได้อยู่ประจําควบคุมกิจการ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๙๕ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท
มาตรา ๑๕๑ ผู้ใดจําหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปหรือจําหน่ายวัตถุออกฤทธิ์และยารวมกันหลายขนาน โดยจัดเป็นชุดไว้ล่วงหน้า เพื่อประโยชน์ทางการค้าอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๙๖ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๑๕๒ ความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดตามประมวลกฎหมายนี้ที่มีโทษจําคุกและปรับ ให้ศาลลงโทษจําคุกและปรับด้วยเสมอ โดยคํานึงถึงการลงโทษในทางทรัพย์สินเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด
ถ้าศาลเห็นว่าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่งของผู้ใดเมื่อได้พิเคราะห์ถึงความร้ายแรงของการกระทําความผิด ฐานะทางเศรษฐกิจของผู้กระทําความผิดและพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องประกอบแล้ว กรณีมีเหตุอันสมควรเป็นการเฉพาะราย ศาลจะลงโทษจําคุกหรือปรับน้อยกว่าอัตราโทษที่กฎหมายกําหนดไว้สําหรับความผิดนั้นก็ได้
มาตรา ๑๕๓ ถ้าศาลเห็นว่าผู้กระทําความผิดผู้ใดได้ให้ข้อมูลที่สําคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดต่อเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจซึ่งเป็นผู้จับกุม หรือพนักงานสอบสวนในคดีนั้น เมื่อพนักงานอัยการระบุในคําฟ้องหรือยื่นคําร้องต่อศาล ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าอัตราโทษที่กฎหมายกําหนดไว้สําหรับความผิดนั้นก็ได้
กรณีที่ผู้กระทําความผิดได้เคยให้ข้อมูลที่สําคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามวรรคหนึ่ง ถ้าพนักงานอัยการไม่ระบุในคําฟ้องหรือยื่นคําร้องต่อศาล ผู้กระทําความผิดนั้นอาจยื่นคําร้องต่อศาลตามมาตรานี้ได้